Saturday, September 13, 2008

ปืนใหญ่จอมสลัด queens of pattani


เทรลเลอร์ตัวใหม่ โฆษณา 5 กันยายน
แนวภาพยนตร์ แอ็คชั่น-แฟนตาซี
บริษัทผู้สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัทดำเนินงานสร้าง ภาพยนตร์หรรษา
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ, Mr. Ron Paul Fineman
ควบคุมการผลิต นนทรีย์ นิมิบุตร
กำกับภาพยนตร์ นนทรีย์ นิมิบุตร

queen of pattani


เรื่องย่อ 400 ปีที่แล้ว ลังกาสุกะ รัฐอิสระต้องสูญเสีย รายาบาฮาดูร์ ชาห์ จากการถูกลอบปลงพระชนม์ ราชวงศ์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการสถาปนา องค์หญิงฮีเจา (จารุณี สุขสวัสดิ์) ธิดา คนโตขึ้นเป็นรายาสตรีองค์แรกแห่งลังกาสุกะ แม้รายาฮีเจาจะปกป้องบ้านเมืองอย่างเข้มแข็ง แต่เหล่าแคว้นรอบด้าน รวมทั้งกลุ่มกบฏและโจรสลัดต่าง ๆ ล้วนหมายจะยึดครองดินแดนอันมั่งคั่งแห่งนี้

จนกระทั่ง ยานิส บรี ปราชญ์แห่งอาวุธชาวดัชท์ เดินทางมาพร้อมกับศิษย์เอกนักประดิษฐ์ชาวจีนนาม ลิ่มเคี่ยม (จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม) เพื่อนำมหาปืนใหญ่ อาวุธที่ดีที่สุดไปถวายรายาฮีเจาใช้ป้องกันบ้านเมือง แต่กลับถูกกลุ่มโจรสลัดที่นำโดย เจ้าชายราไว (เอก โอรี) และ อีกาดำ (วินัย ไกรบุตร) จอมสลัดผู้มีวิชาดูหลำอันแก่กล้า ซุ่มโจมตีเพื่อชิงมหาปืนใหญ่ จนทำให้เรือฮอลันดาระเบิด ยานิส บรีถึงแก่ความตาย กระบอกปืนใหญ่จมลงสู่ก้นทะเล เหลือเพียงแต่ลิ่มเคี่ยมเท่านั้นที่ยังรอดชีวิตอยู่




เหตุการณ์ครั้งนี้ยังเป็นเวลากำเนิดของ ปารี (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) เด็ก ชายชาวเลผู้มีคุณสมบัติพิเศษในตัวที่จะสามารถฝึกวิชาดูหลำขั้นสูงได้ ปารีเติบโตเป็นหนุ่ม พร้อมกับสั่งสมทั้งความสามารถและความแค้นในการสะสางอีกาดำที่ทำให้พ่อและแม่ ของตนต้องตาย ลิ่มเคี่ยมซึ่งช่วยชีวิตปารีในครั้งนั้นไว้ได้ หลบมาใช้ชีวิตอยู่กับหมู่บ้านชาวเล พร้อมประดิษฐ์อาวุธพิสดารมากมาย และตั้งกลุ่มก่อกวนตัดกำลังโจรสลัดขึ้น

แม้ลังกาสุกะจะมีทหารเอกฝีมือเยี่ยมอย่าง ยะรัง (ชูพงษ์ ช่างปรุง) แต่ฮีเจาก็ยังจำเป็นต้องให้ อูงู (แอนนา แฮมบาวริส) น้องสาวคนเล็กของตนอภิเษกกับ เจ้าชายปาหัง (เจษฎาภรณ์ ผลดี) เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้ลังกาสุกะ แม้อูงูจะไม่เต็มใจก็ตาม ขณะที่ยะรังนั้นกลับตกหลุมรัก บิรู (ณัฐรดา อภิธนานนท์)องค์หญิงคนรอง แต่กลับไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกนั้นได้

การต่อสู้ของหลายฝ่ายเริ่มขึ้น จนทำให้ปารีได้มาพบกับอูงู ทั้งคู่หลงไปติดเกาะร้างแห่งหนึ่ง เพื่อรักษาตัวจากบาดแผล ที่นั่น…ปารีได้ฝึกวิชาดูหลำชั้นสูงจาก อาจารย์กระเบนขาว (สรพงษ์ ชาตรี) ปรมาจารย์ทางดูหลำ และค้นพบว่า ดูหลำคือวิชาที่มีทั้งด้านสว่างที่ทรงพลังและด้านมืดที่น่ากลัว ยากจะควบคุมจิตใจเอาไว้ได้ พร้อมกับที่ความรักของทั้งปารีและอูงูได้งอกงามขึ้น ขณะเดียวกัน ลิ่มเคี่ยมกุญแจสำคัญในการสร้างปืนใหญ่ กลับถูกกลุ่มสลัดจับตัวเป็นเชลยไว้ได้ และถูกบังคับให้ต้องสร้างปืนใหญ่ที่จะนำมาใช้ทำลายล้างรัฐลังกาสุกะ

สงครามครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น โดยลังกาสุกะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะกองทัพโจรสลัดกลับสามารถกู้มหาปืนใหญ่ในตำนานนั้นจากก้นทะเลไว้ได้ ลังกาสุกะเป็นเป้าหมายของการทำลายล้าง มีเพียง ยะรังนักรบผู้กล้า ปัญญาของลิ่มเคี่ยม อูงูผู้พร้อมสละทั้งชีวิตและความรักเพื่อแผ่นดิน และพลังดูหลำอันลึกลับของปารีเท่านั้น ที่จะต่อกรกับแสนยานุภาพจากกองทัพโจรสลัดเอาไว้ได้


จุดรวมของสุดยอดและปรากฏการณ์เหนือจินตนาการ “ปืนใหญ่จอมสลัด”


เป็น ภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีเรื่องราวอยู่บนพื้นฐานของความจริง โดยผสมผสานกลิ่นอายของแฟนตาซี เพื่อเพิ่มอรรถรสความสนุกสนานในแนวทางของภาพยนตร์ โดยเดินเรื่องด้วยตำนานความเสียสละเพื่อแผ่นดินของราชินี 3 พระองค์แห่งลังกาสุกะ พร้อมสอดแทรกชีวิตที่น่าสนใจของชนเผ่าชาวเล และโจรสลัดที่ต่างก็มีจุดประสงค์ในการดำเนินชีวิตเพื่อแผ่นดินเกิดที่ต่าง กันไป


เป็นอภิมหาโปรเจ็คต์ภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์แห่งปีที่ทุ่มทุนสร้างด้วยงบประมาณ 300 ล้านบาท ภายใต้การกำกับภาพยนตร์ครั้งยิ่งใหญ่ในรอบสิบปีของผู้กำกับคุณภาพ นนทรีย์ นิมิบุตร โดยเสริมรากฐานความแข็งแกร่งของโปรเจ็คต์ด้วยนักเขียนรางวัลซีไรต์ วินทร์ เรียววาริณ กับครั้งแรกในการเขียนบทภาพยนตร์, ผู้ออกแบบงานสร้าง เอก เอี่ยมชื่น กับครั้งสำคัญที่จะเสกสรรค์ปั้นจินตนาการให้ออกมาสมจริงที่สุดอีกครั้งหนึ่ง, ดูแลการผลิตโดย เชิดพงษ์ เหล่ายนตร์ และที่ปรึกษาดูแลงานทางด้านภาพโดย ชาญกิจ ชำนิวิกัยพงศ์


3. กว่า 5 ปี ในการเตรียมงานสร้างและถ่ายทำ ด้วยทีมงานกว่า 1,000 ชีวิต ที่ทุ่มเททุกศาสตร์แห่งศิลป์หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวสู่อลังการงานสร้างของโป รเจ็คต์ ถ่ายทอดแต่ละฉากแห่งจินตนาการให้ปรากฏขึ้นจริงบนแผ่นฟิล์ม โดยทีมงานได้เลือกใช้โลเกชั่นทางทะเลหลากหลายแห่งในเมืองไทย ตั้งแต่การเนรมิตฉากหมู่บ้านชาวเลที่เกาะสีชัง จ. ชลบุรี, เลือกโลเกชั่นใน .สัตหีบ เพื่อถ่ายทำเรื่องราวในส่วนกลางทะเลและกำแพงวัง รวมถึงเลือกจังหวัดกระบี่และพังงา เพื่อถ่ายทำฉากถ้ำบนเกาะ นอกจากนี้ยังมีการสร้างฉากใหญ่ที่มีส่วนสำคัญในภาพยนตร์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความพิถีพิถันทุกตารางนิ้วของฉากภายในพระราชวังลังกาสุกะ ไปจนถึงการสู้รบบนเรือโจรสลัด ด้วยการสร้างเรือหลายรูปแบบที่สามารถใช้ได้จริง รวมถึงเทคนิคพิเศษด้านภาพกว่า 2,000 ช็อต ที่จะถูกเนรมิตออกมาอย่างสมจริงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในภาพยนตร์ไทยโดยทีมผู้เชี่ยวชาญอย่าง BLUE FAIRY



4. ระดมนักแสดงคุณภาพระดับแถวหน้าของเมืองไทย และรุ่นใหม่ไฟแรงมาปะทะฝีมือกันอย่างคับคั่ง ตั้งแต่การได้นางเอกตลอดกาลอย่าง “จารุณี สุขสวัสดิ์” หวนคืนแผ่นฟิล์มครั้งแรกในรอบหลายปี พร้อมด้วยรุ่นใหญ่ฝีมือเอกอุอย่าง “สรพงษ์ ชาตรี”, ประชันบทบาทครั้งสำคัญในชีวิตของ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” พระเอกเจ้าเสน่ห์ผู้พลิกคาแร็คเตอร์อย่างหาตัวจับยาก และ “เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง” พระเอกความสามารถสูงในด้านแอ็คชั่นเสี่ยงตาย รวมถึงนักแสดงหน้าใหม่อีกมากมาย


5. และที่ได้รับการกล่าวขานถึงเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของผู้กำกับ นนทรีย์ นิมิบุตร กับเหล่านักแสดงระดับแม่เหล็กของเมืองไทยอย่าง “ติ๊ก เจษฏาภรณ์ ผลดี”, “ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ”, “อรรถพร ธีมากร” และ ชาติชาย งามสรรพ์ (2499 อันธพาลครองเมือง), “วินัย ไกรบุตร” (นางนาก) และ “สุวินิต ปัญจมะวัต” (จันดารา และ อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต ตอน The Wheel)


นนทรีย์พูดถึงหนัง



“ปืน ใหญ่จอมสลัด เป็นภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตที่ผมเคยทำมา ซึ่งผมว่ามันก็ถึงเวลาของมันแล้ว โปรเจ็คต์ใหญ่ ๆ แบบนี้ ต้องใช้ทั้งพลังและเวลาอย่างมาก ซึ่งเราก็ต้องทำในช่วงเวลาที่เรายังทำไหวอยู่ ยังสามารถเอามันได้อยู่ ถ้าผมจะคาดหวังอะไรจากมัน ผมจะหวังให้บอกตัวเองอยู่เสมอว่า จะทำหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย เพื่อที่ผมจะได้เต็มที่กับมันทุกครั้ง”


นนทรีย์พูดถึงวินทร์ เลียววาริณ


“ผม ใช้เวลาพูดคุยกับพี่วินทร์นานเป็นปี หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า เขาเคยเรียนทางด้านภาพยนตร์คอร์สสั้น ๆ มาก่อนที่อเมริกา ดังนั้นความรู้ด้านภาพยนตร์ของเขาจึงมีเยอะอยู่แล้ว เราก็เพียงแค่นำมาประกอบกัน เขาเป็นคนที่ทำงานเร็วมาก แล้วก็มีระเบียบวินัยมากด้วย น่าศรัทธาในการทำงานมาก ๆ เป็นโชคดีของผม ที่พี่วินทร์มาเขียนบทให้ทั้งเรื่อง”


นนทรีย์พูดถึงผู้กำกับศิลป์เอก เอี่ยมชื่อ



“กอง ถ่ายของเราเหมือนมีชีวิตอยู่ในสงคราม เราชอบมีชีวิตอยู่แบบนี้ เรารักกัน แล้วเราก็ยกพวกไปตีคนอื่น เอาชนะได้สำเร็จเป็นหนังฉาย เราและทุกคนที่มากับเราก็จะอยู่ในประวัติศาสตร์หนังไทย ถ้าเราทำดีพอ”


เอก เอี่ยมชื่น ผู้ออกแบบงานสร้างมือหนึ่งของวงการภาพยนตร์ไทย อยู่เบื้องหลังความสำเร็จแบบเคียงบ่าเคียงไหล่มาในทุก ๆ ผลงานของนนทรีย์ นิมิบุตร เรียกได้ว่า “มีอุ๋ยที่ไหน มีเอกที่นั่น”

ด้วยความเป็นเพื่อนสนิทกันมานานและทำงานเข้าขากันได้เป็นอย่างดี กับผลงานเรื่องยิ่งใหญ่ในชีวิตของทั้งคู่อย่าง “ปืนใหญ่จอมสลัด” นี้ เอกและนนทรีย์จึงผนึกกำลังกันอีกครั้งในการสร้างฝันผ่านจินตนาการแบบแอ็คชั่นแฟนตาซีให้ออกมาอย่างสมจริงที่สุด

งานสร้างฉาก, สรรพาวุธ, ชุดแต่งกาย และอุปกรณ์ประกอบฉากทุกอย่างล้วนผ่านการค้นคว้าข้อมูลกันอย่างเจาะลึกและใช้ เวลานานนับปีในการออกแบบและสร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันในทุกขั้นทุกตอนบนพื้น ฐานของความสมจริง ไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้านชาวเล, ฉากพระราชวังลังกาสุกะทั้งในและนอก, ฉากกำแพงวัง, ฉากคุกที่คุมขัง รวมถึงฉากสู้รบบนเรือโจรสลัด ฯลฯ

เหล่านี้ล้วนเป็นผลงานที่เกิดจากความทุ่มเทของเอกและทีมงานอย่างเต็มพิกัด เพื่อทำให้องค์ประกอบในทุก ๆ ฉากที่ล้วนมีความสำคัญเป็นอย่างมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาอย่างน่าเชื่อ ถือและมีคุณภาพมากที่สุดสมกับเป็นผู้ออกแบบงานสร้างที่กวาดรางวัลมาแล้วแทบ ทุกสถาบัน






No comments: